ความแตกต่างของใบเลื่อยสายพานตัดโลหะกับใบเลื่อยสายพานตัดไม้

ใบเลื่อยสายพานความเหมือนที่แตกต่างในการใช้งาน


ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะ

ใบเลื่อยสายพานเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับเครื่องเลื่อยสายพาน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดวัตถุต่างๆสำหรับงานแปรรูป เช่น เหล็ก,โลหะ หรือไม้ โดยใบเลื่อยสายพานมีหลายประเภทเพื่อให้รองรับกับการใช้งาน เช่น ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะใบเลื่อยสยพานตัดไม้ ดังนั้นการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานจะต้องคำนึงถึงวัตถุที่ใช้ตัด ความหนา ความตัน และความบางของวัตถุซึ่งความแตกต่างกันดังกล่าวมีผลต่อการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานให้เหมาะสมกับประเภทของงานจึงมีความสำคัญมากเพราะจะสามารถช่วยทุ่นแรงในการแปรรูปวัตถุต่างๆ ได้

 

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพาน ให้งานหนักกลายเป็นเบา

  1. ความยาวของใบเลื่อยสายพาน ขึ้นอยู่กับเครื่องเลื่อยสายพานว่าสามารถตั้งความยาวได้เท่าไร โดยเครื่องเลื่อยสายพานสามารถตั้งระยะห่างของพูเลย์ (Pulley) ได้โดยวัดจากจุดศูนย์กลางของพูเลย์ทั้งสองข้างและความยาวที่ได้จากการวัดคือความยาวของใบเลื่อยสายพานที่เหมาะสมจะใช้งานกับเครื่องเลื่อยสายพานเครื่องนั้น

  2. ความหนาของใบเลื่อยสายพาน มีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตร ความหนาของใบเลื่อยสายพานจะถูกกำหนดด้วยช่องว่างระหว่างตัวประคองใบเลื่อย (Side Guides) ถ้าเลือกใช้ความหนาของใบเลื่อยสายพานไม่เหมาะสม เช่น หนาเกินไปอาจทำให้เกิดการแตกของใบเลื่อยสายพาน หากหลวมเกินไปอาจทำให้คุณภาพการตัดลดลง โดยสามารถสังเกตุใบเลื่อยสายพานที่หลวมได้จากการสั่นสะเทือนและเสียงที่ดัง

  3. ความกว้างของใบเลื่อยสายพาน ความกว้างของใบเลื่อยสายพานโดยส่วนใหญ่จะมีการระบุไว้ที่ใบเลื่อยสายพานอยู่แล้ว แต่หากไม่มีสามารถวัดได้ง่ายๆ โดยการใช้ไม้บรรทัดวัดจากหลังของใบเลื่อยสายพานจนมาถึงปลายคมฟันใบเลื่อยสายพาน จะทำให้ทราบว่าความกว้างของใบเลื่อยสายพานชิ้นนี้เหมาะกับการติดตั้งกับเครื่องสายพานเครื่องและขนาดของวัตถุที่จะใช้ตัดด้วยหรือไม่

  4. ลักษณะฟันของใบเลื่อยสายพานลักษณะฟันของใบเลื่อยสายพานที่แตกต่างกันก็มีการใช้งานที่ต่างกันลักษณะฟันของใบเลื่อยสายพานจะเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพและคุณภาพของการตัด รวมถึงความสามารถในการรองรับเศษโลหะหรือขี้เลื่อย และอายุการใช้งานของใบเลื่อย แต่มีอีกสิ่งหนึ่งต้องคำนึงถึงคือ ลักษณะของคลองฟันเลื่อย (Tooth Set) คือ ความเอียงของฟันใบเลื่อยสายพานยิ่งเอียงมากร่องการตัดก็จะยิ่งใหญ่จะช่วยให้เกิดช่องว่างระหว่างใบเลื่อยและชิ้นงานทำให้การตัดในทางโค้งตัดได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งลักษณะฟันของใบเลื่อยสายพานแบ่งออกเป็น 5 ลักษณะ

    • Regular ฟันเลื่อยปกติใช้สำหรับการตัดทั่วไป นิยมในการตัดโลหะ
    • Hook ฟันเลื่อยแบบตะขอ นิยมใช้ตัดวัตถุในปริมาณมากๆ เพราะมีความรวดเร็วในการตัด คายเศษของวัตถุได้ดี เหมาะกับการตัดทางยาวหรือตัดเพื่อเตรียมเป็นวัตถุดิบ เช่นงานไม้
    • Skip ฟันเลื่อยแบบสกิป สามารถตัดวัตถุแบบหยาบได้รวดเร็ว โดยเฉพาะการตัดทางยาวรูปโค้งจะตัดได้ดี
    • Variable Pitch ฟันไล่ขนาด เหมาะกับการตัดงานรูปร่างที่ความหนาในการตัดไม่เท่ากัน
    • Constant Pitch ขนาดฟันเท่ากันสำหรับการตัดงานแผ่นสี่เหลี่ยม

  5. จำนวนของฟันใบเลื่อยสายพาน คือจำนวนฟันของใบเลื่อยสายพานในระยะความยาว 1 นิ้ว มีตัวย่อคือค่า TPI (Teeth Per Inch) เช่น 3/4, 4/6, 6/10 หมายถึงใน 1 นิ้วแรกจะมีจำนวนฟันใบเลื่อย 3 TPI ในอีก 1 นิ้วถัดไปจะมีจำนวนฟันใบเลื่อย 4 TPI เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้งานใบเลื่อยสายพานในการตัดวัตถุต้องคำนึงถึงจำนวนฟันของใบเลื่อยด้วยเนื่องจากจำนวนฟันของใบเลื่อยแต่ละจำนวนเหมาะกับการตัดวัถตุที่แตกต่างกัน เช่น หากวัตถุที่ใช้ตัดมีลักษณะที่ตัน เช่นงานไม้, งานเหล็กเพลาตัน, เหล็กแม่พิมพ์ จะใช้จำนวนฟันเลื่อยที่มีความถี่น้อย ฟันเลื่อยจะมีขนาดใหญ่ จะช่วยให้การตัดใช้เวลาน้อย ประหยัดพลังงาน ผิวของหน้าวัตถุเรียบสวย และคายขี้เลื่อยได้ดี จำนวนฟันใบเลื่อยที่นิยมใช้คือ 2/3, 4/3, 4/6 ส่วนวัตถุที่มีความกลวง ลักษณะเป็นท่อ หรือ บางจะใช้จำนวนฟันใบเลื่อยที่มีความถี่มากเพราะฟันใบเลื่อยจะสัมผัสกับพื้นผิวของวัตถุได้น้อยกว่าวัตถุแบบตัน จำนวนฟันใบเลื่อยที่นิยมใช้ คือ 5/8, 6/10, 10/14

  6. วัสดุของใบเลื่อยสายพานวัสดุที่ใช้ในการทำใบเลื่อยสายพานก็เป็นส่วนสำคัญในการเลือกใช้งานเพราะงานตัดต้องการใบเลื่อยสายพานที่ต้องมีความแข็งแรง ทนต่อการสึกหรอ รวมไปถึงอายุการใช้งานของใบเลื่อยสายพานที่ยาวนาน ตัวอย่างของวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตใบเลื่อยสายพาน
    • Carbon ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน ใช้ในงานร้านซ่อมบำรุง, โรงหล่อขนาดเล็ก, โรงงานเฟอร์นิเจอร์, ร้านขายตู้, ร้านงานไม้, การประกอบและรื้อพาเลท, โรงเลื่อยแบบพกพาและร้านจัดหางาน
    • Bi-metal ผลิตจากเหล็กกล้าความเร็วสูง มีความแข็งแรง ต้านทานความสึกหรอสูง มีความยืดหยุ่นทนแรงดึงได้ดี เฉพาะส่วนของฟันคมใบเลื่อยสายพานจะชุบแข็งทำให้มีความแข็งแรงและทนทานในการใช้งานสูง
    • Carbide เป็นใบเลื่อยที่ติดเม็ดคาร์ไบด์ที่ปลายฟันโดยใช้วัสดุอื่นในการรองรับ ตัดงานได้รวดเร็ว พื้นผิวจากการตัดมีความเรียบ ใช้ในการตัดวัตถุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ เช่น วัสดุที่ใช้สำหรับงานอากาศยาน เหล็กเนื้อแข็ง ไม้เนื้อแข็ง 

ความแตกต่างระหว่างในการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะและใบเลื่อยสายพานตัดไม้

ในความเป็นจริงการใช้ใบเลื่อยสายพานสามารถใช้ตัดได้ทั้งโลหะและไม้ แต่จะมีคุณลักษณะพิเศษบางประการของใบเลื่อยสายพานที่เหมาะสำหรับการตัดโลหะหรือไม้โดยเฉพาะซึ่งทำให้ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะและใบเลื่อยสายพานตัดไม้มีความแตกต่างกัน

ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะ สำหรับใบเลื่อยสายพานตัดโลหะสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนฟันใบเลื่อยสายพานที่ใช้งานโดยส่วนใหญ่จำนวนฟันใบเลื่อยสายพานสำหรับการตัดโลหะจะอยู่ที่ 6,10,14,18,24, 10/14 ซึ่งส่วนใหญ่โลหะจะเป็นแบบรูปทรง แบบท่อ หรือบาง แต่หากโลหะที่ต้องการตัดมีความตันทั้งแบบเหลี่ยมตัน และแบบวงกลม เช่น งานเหล็กเพลาตัน หรือแม่พิมพ์ ก็ต้องใช้ใบเลื่อยที่มีความถี่น้อยลง เช่น 2/3,3/4,5/8,6/10 เพื่อให้ตัดงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลักษณะของใบเลื่อยสายพานตัดโลหะคือแบบ Regular, Hook, Variable Pitch, Constant Pitch วัสดุที่มักใช้ผลิตใบเลื่อยสายพานตัดโลหะ เช่น Carbon, Bi-metal

ใบเลื่อยสายพานตัดไม้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงข้อแรกคือจำนวนฟันใบเลื่อยสายพานซึ่งการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานตัดไม้จะตรงข้ามกับใบเลื่อยสายพานตัดโลหะเพราะการตัดไม้ส่วนใหญ่จะมีความตัน และมีขนาดใหญ่จึงต้องใช้จำนวนฟันใบเลื่อยสายพานที่มีความถี่น้อยเช่น 2/3,3/4,5/8,6/10 เพื่อจะได้ตัดไม้ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน ได้ผิวหน้าเรียบสวยงาม และคายเศษไม้ได้ดี แต่หากต้องการซอยไม้เป็นแบบแว่น หรือแบบแผ่น ก็ต้องใช้จำนวนฟันใบเลื่อยสายพานที่มีความถี่เพิ่มมากขึ้นเพราะความหนาของไม้มีความหนาลดลง ลักษณะของใบเลื่อยสายพานที่เหมาะกับการตัดไม้ เช่น Regular, Hook, Skip วัสดุที่มักใช้ผลิตใบเลื่อยสายพานสำหรับไม้ เช่น Carbon, Carbide

ความแตกต่างของการเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะและใบเลื่อยสายพานตัดไม้คือจำนวนฟันใบเลื่อยสายพานที่มีการเลือกใช้ที่แตกต่างกัน ใบเลื่อยสายพานตัดโลหะจะเลือกใช้จำนวนฟันใบเลื่อยสายพานแบบถี่มาก ส่วนใบเลื่อยสายพานตัดไม้จะเลือกใช้ใบเลื่อยสายพานแบบถี่น้อย ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ มีทั้งที่เหมือนกันและต่างกันตามความเหมาะสมในการใช้งาน การเลือกใบเลื่อยสายพานให้เหมาะสมตามประเภทการใช้งานจะช่วยให้สามารถปรับปรุงคุณภาพการตัดได้ ทำให้การตัดมีความรวดเร็ว ยืดอายุการใช้งานให้กับใบเลื่อยสายพาน ทำให้ประหยัดต้นทุน และยังช่วยเพิ่มปริมาณงานตัดได้อีกด้วย

บริษัท ออล พาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด (All Parts Intertrade) เป็นผู้จำหน่าย ใบเลื่อยสายพาน ใบเลื่อยสายพานตัดเหล็ก ใบเลื่อยสายพานตัดไม้ ใบเลื่อยสายพานตัดสแตนเลส ใบเลื่อยสายพานตัดเนื้อแช่แข็ง ทั้งปลีกและส่ง เกรดคุณภาพ ในราคามิตรภาพ พร้อมบริการหลังการขายที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สนใจสินค้าติดต่อเรา

บริษัท ออลพาร์ท อินเตอร์เทรด จำกัด
135/77 หมู่6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
Tel : 089-888-3455, 02-441-9960
Fax: 028002200
E-Mail : pongchart@apintertrade.com, tarw124@gmail.com
Line id : ta2j

 

Visitors: 208,835